เรียม ร่ำ น้ำ เนตร ถ้ ว ม ถึง พรหม
- แม่เมาะ แบรนด์ by Maemoh EGAT - Issuu
- โวหารภาพพจน์
- หัวใจพรหม
- เรียมร่ำน้ำเนตรถ้วม ถึงพรม พ... | ดูวิธีการแก้ปัญหาได้ที่ QANDA
- การใช้ภาษาให้งดงาม: การใช้กวีโวหาร
- 24 นิมิตยา 4/3: +ถอดความ นิราศนรินทร์+
- เสียงจากถ้ำฉบับที่ ๒๗ by watkhaowong Thamnarai - Issuu
16 ก. ค. 2564 05:02 น.
แม่เมาะ แบรนด์ by Maemoh EGAT - Issuu
จะฝากน้องกับฟ้าหรือดินดี ถ้าฝากฟ้าก็ไม่ไว้ใจเทวดา ฝากกับลม ลมก็จะทำให้น้องบอบช้ำ ๔๕. ชมแขคิดใช่หน้า นวลนาง เดือนดำหนิวงกลาง ต่ายแต้ม พิมพ์พักตร์แม่เพ็ญปราง จักเปรียบ ใดเลย ขำกว่าแขไขแย้ม ยิ่งยิ้มอัปสร 45. ดูพระจันทร์ก็รู้ว่าไม่ใช่หน้าของน้อง เพราะที่กลางดวงจันทร์มีรอยตำหนิเป็นรูปกระต่าย แต่หน้าของน้องอิ่มสะอาด จะเอาสิ่งใดมาเปรียบเทียบมิได้เลย งามยิ่งกว่าดวงจันทร์ และงามยิ่งกว่ายิ้มของนางอัปสร ๑๑๘. ถึงตระนาวตระหน่ำซ้ำ สงสาร อรเอย จรศึกโศกมานาน เนิ่นช้า เดินดงท่งทางละหาน หิมเวศ สารสั่งทุกหย่อมหญ้า ย่านน้ำลานาง 118. ถึงเมืองตระนาวศรี สงสารน้อง ไปศึกมานานช้า เดินดงทุ่งและน้ำ ได้สั่งหญ้าและน้ำฝากให้ส่งไปถึงน้อง ๑๒๒. พันเนตรภูวนาถตั้ง ตาระวัง ใดฮา พักตร์สี่แปดโสตฟัง อื่นอื้อ กฤษณนิทรเลอหลัง นาคหลับ ฤาพ่อ สองพิโยคร่ำรื้อ เทพท้าวทำเมิน 122. พระอินทร์จะตั้งตาคอยระวังใครอยู่ พระพรหมก็ฟังเสียงอื่นเสียหมด พระนารายณ์ก็บรรทมเหนือพญานาคหรืออย่างไร ท่านเหล่านั้นทำไมจึงได้เมินเฉยต่อความโศกเศร้าของเราทั้งสอง ๑๔๐. ตราบขุนคิริข้น ขาดสลาย แลแม่ รักบ่หายตราบหาย หกฟ้า สุริยจันทรขจาย จากโลก ไปฤา ไฟแล่นล้างสี่หล้า ห่อนล้างอาลัย 140.
โวหารภาพพจน์
ถอดความ นิราศนรินทร์ ผู้แต่ง นายนรินทร์ธิเบศ ๑. ศรีสิทธิ์พิศาลภพ เลอหล้าลบล่มสวรรค์ จรรโลงโลกกว่ากว้าง แผนแผ่นผ้างเมืองเมรุ ศรีอยุธเยนทร์แย้มฟ้า แจกแสงจ้าเจิดจันทร์ เพียงรพิพรรณผ่องด้าว ขุนหาญห้าวแหนบาท สระทุกข์ราษฎร์รอนเสี้ยน ส่ายเศิกเหลี้ยนล่งหล้า ราญราบหน้าเภริน เข็ญข่าวยินยอบตัว ควบค้อมหัวไหว้ละล้าว ทุกไทน้าวมาลย์น้อม ขอออกอ้อมมาอ่อน ผ่อนแผ่นดินให้ผาย ขยายแผ่นฟ้าให้แผ้ว เลี้ยงทแกล้วให้กล้า พระยศไท้เทิดฟ้า เฟื่องฟุ้งทศธรรม ท่านแฮ 1.
หัวใจพรหม
อยุธยายศล่มแล้ว ลอยสวรรค์ ลงฤา สิงหาสน์ปรางค์รัตน์บรร เจิดหล้า บุญเพรงพระหากสรรค์ ศาสน์รุ่ง เรืองแฮ บังอบายเบิกฟ้า ฝึกฟื้นใจเมือง 2. กรุงศรีอยุธยาล่มแล้ว ที่เห็นว่ารุ่งเรืองนั้นได้ลอยลงจากสวรรค์แล้วหรือ.. ปราสาทราชวังที่งดงาม ตระการอยู่บนแผ่นดิน บุญที่พระองค์ได้สร้างไว้พระองค์ได้ทำนุบำรุงศาสนาให้รุ่งเรือง ได้ปิดบังทางแห่งความล่มจม ทรงให้ราษฎรตื่นจากความหลงในการบาปต่างๆ ๓. เรืองเรืองไตรรัตน์พ้น พันแสง รินรสพระธรรมแสดง ค่ำเช้า เจดีย์ระดะแซง เสียดยอด ยลยิ่งแสงแก้วเก้า แก่นหล้าหลากสวรรค์ 3. ความรุ่งเรืองของพระรัตนตรัย ซึ่งรุ่งเรืองยิ่งกว่าแสงอาทิตย์ มีการแสดงธรรมทุกค่ำเช้า เจดีย์ที่เรียงรายสูงเสียดกัน มองดูงดงามยิ่งกว่าแสงจากแก้วเก้าประการ เป็นหลักของแผ่นดินและสวรรค์ ๔. โบสถ์ระเบียงมรฑปพื้น ไพหาร ธรรมาสน์ศาลาลาน พระแผ้ว หอไตรระฆังขาน ภายค่ำ ไขประทีปโคมแก้ว ก่ำฟ้าเฟือนจันทร์ 4. ทั้งโบสถ์ระเบียงมณฑปและวิหาร ธรรมาสน์ ศาลาลาน หอไตร เสียงระฆังตอนค่ำ แสงจากโคมสว่างไปทั่วท้องฟ้า ทำให้แสงจันทร์สว่างน้อยลง ๑๐. โฉมควรจักฝากฟ้า ฤาดิน ดีฤา เกรงเทพไท้ธรณินทร์ ลอบกล้ำ ฝากลมเลื่อนโฉมบิน บนเล่า นะแม่ ลมจะชายชักช้ำ ชอกเนื้อเรียมสงวน 10.
เรียมร่ำน้ำเนตรถ้วม ถึงพรม พ... | ดูวิธีการแก้ปัญหาได้ที่ QANDA
๓ ภาพพจน์ให้ความเข้มข้นทางอารมณ์มากขึ้น ด้วยการให้ความแตกต่าง ความขัดแย้ง ความเหมือน ความผสาน และทัศนคติที่มีต่อสิ่งหนึ่งสิ่งใด ๒. ๔ ภาพพจน์ช่วยให้กล่าวคำน้อยแต่ได้ความมาก ทั้งนี้ด้วยลักษณะการบังคับทางฉันทลักษณ์ ที่กำหนดจำนวนคำ สัมผัส คำครุ-คำลหุ ดังนั้นกวีจึงต้องสรรคำมาใช้ให้สามารถลงในตำแหน่งนั้นอย่างเหมาะสม ขณะเดียวกันก็ต้องได้เนื้อความหรือความหมายตามที่ต้องการด้วย เพื่อให้สามารถสื่อความและสื่ออารมณ์ได้ ๓. ชนิดของภาพพจน์ ๓. ๑ อุปมา ( Simile) คือ การเปรียบเทียบสิ่งที่เหมือนหรือคล้ายกับอีกสิ่งหนึ่ง โดยมีคำเชื่อมดังนี้ คือ เหมือน เสมือน เหมือนดั่ง ดุจ ประดุจ ประหนึ่ง ละม้าย เสมอ ปาน เพียง ราว ราวกับ เทียบ เทียม คือ ฯลฯ ตัวอย่าง แล้วว่าอนิจจาความรัก พึ่งประจักษ์ ดั่ง สายน้ำไหล ตั้งแต่จะเชี่ยวเป็นเกลียวไป ไหนเลยจะไหลคืนมา (อิเหนา: พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย) สูงระหงทรงเพรียวเรียวรูด งามละม้าย คล้าย อูฐกะหลาป๋า พิศแต่หัวตลอดเท้าขาวแต่ตา ทั้งสองแก้มกัลยา ดัง ลูกยอ คิ้วก่ง ดัง กงเขาดีดฝ้าย จมูกละม้าย คล้าย พร้าขอ หูกลวงดวงพักตร์หักงอ ลำคอโตตันสั้นกลม (ระเด่นลันได: พระมหามนตรี (ทรัพย์)) ๓.
การใช้ภาษาให้งดงาม: การใช้กวีโวหาร
24 นิมิตยา 4/3: +ถอดความ นิราศนรินทร์+
ศ. 2495) ไม่เช่นนั้น งานเขียนจะไม่เข้าถึงดึงดูดจิตผู้อ่านไว้ได้เลย คนอ่านข่าว หรือนักข่าว ขณะปฏิบัติหน้าที่ก็เหมือนกัน ควรทำใจให้เป็นกลาง ไม่โกรธจนเสียกิริยา ไม่ควรเศร้าจนน้ำตาไหล ผมไม่เชื่อว่าผู้รับสารอยากเห็นคนเป็น "สื่อ" อ่อนแอถึงขั้นนั้น ผมไม่กล้าไปสอนใครอย่าร้องไห้ หากใครจะร้อง ก็ให้เขาร้อง จากหัวใจของเขาเอง. กิเลน ประลองเชิง อ่านเพิ่มเติม...
เสียงจากถ้ำฉบับที่ ๒๗ by watkhaowong Thamnarai - Issuu
- เรียมร่ำน้ำเนตรถ้วม ถึงพรม พ... | ดูวิธีการแก้ปัญหาได้ที่ QANDA
- หัวใจพรหม
- Www sso go th มาตรา 33 2
อธิพจน์ อธิพจน์ หมายถึง การกล่าวผิดไปจากที่เป็นจริง เป็นการกล่าวเกินจริง โดยมีเจตนาเน้นข้อความที่กล่าวนั้นให้มีน้ำหนักยิ่งขึ้น ให้ความรู้สึกเพิ่มขึ้น ตัวอย่าง · "เสียงเท่าฟ้าหน้าเท่ากลอง" "ตัวโตราวกับตึก" "ร้อนแทบสุก" "เหนื่อยสายตัวแทบขาด" · มีทองเท่าหนวดกุ้ง นอนสะดุ้งจนเรือนไหว · "การค้นหาจนแทบ พลิกแผ่นดิน เน้นให้เห็นถึงความพยายามและแสวงหาจนพบแม้จะมีความลำบากยากเย็น หรือมีอุปสรรคเพียงใดก็ตาม" · "เรียมร่ำน้ำเนตรถ้วม ถึงพรหม พาหมู่สัตว์จ่อมจม ชีพม้วย พระสุเมรุเปื่อยเป็นตม ทบท่าว ลงนา หากอกนิษฐ์พรหมฉ้วย พี่ไว้จึ่งคง" (ตำนานศรีปราชญ์) ๕. อวพจน์ อวพจน์ หมายถึง การกล่าวผิดไปจากที่เป็นจริง เป็นการกล่าวเกินจริง โดยมีเจตนาเน้นข้อความน้อยกว่าจริง ตัวอย่าง · "คอยสักอึดใจเดียว" · "มีทองเท่าหนวดกุ้ง นอนสะดุ้งจนเรือนไหว" · "จะเป็นความถามไถ่ในบุริน เงินเท่าปีกริ้นก็ไม่มี" ๖. นามนัย นามนัย หมายถึง การใช้ชื่อส่วนประกอบที่เด่นของสิ่งหนึ่งแทนสิ่งนั้นทั้งหมด ส่วนประกอบดังกล่าวกับสิ่งนั้นมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกัน ตัวอย่าง · "ว่านครรามินทร์ ผลัดแผ่นดินเปลี่ยนราชย์ เยียววิวาทชิง ฉัตร เพื่อกษัตริย์สองสู้ บ่ร้างรู้เหตุผล ควรยาตรพลไปเยือน" (ลิลิตตะเลงพ่าย) "ฉัตร" หมายถึง ราชบัลลังก์ คือเป็นเป็นกษัตริย์ · " เก้าอี้ นายกสมาคมกำลังคลอนแคลน" "เก้าอี้" หมายถึง ตำแหน่ง · "การทำงานชิ้นนี้เป็นภาระสำคัญต้องระดม สมอง ระดับหัวกะทิ" "สมอง" หมายถึง ผู้มีกำลังความคิด มีสติปัญญาสูง มีความเฉลียวฉลาดรอบคอบ ๗.
๓ ปฏิพากย์ หรือ ปรพากย์ (Paradox) คือ การใช้ถ้อยคำที่มีความหมายตรงกัน ข้ามหรือขัดแย้งกันมากล่าว อย่างกลมกลืนกันเพื่อเพิ่มความหมายให้มีน้ำหนักมากยิ่งขึ้น เปล่าเปลี่ยวเหี่ยวอกโอ้ โอ๋อก หนาวจิตคืออุทก สะทกสะท้อน คิดโฉมประโลมกก กอดอุ่น กายแม่เย็นยามร้อน อุ่นเนื้อยามหนาว (นิทานเวตาล: น. ม. ส. ) เธอตายเพื่อจะปลุกให้คนตื่น เธอตายเพื่อผู้อื่นนับหมื่นแสน เธอเป็นดินก้อนเดียวในดินแดน แต่จะหนักและจะแน่นเต็มแผ่นดิน (กระทุ่มแบน: เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์) ๓. ๔ อติพจน์ หรือ อธิพจน์ (Hyperbole) คือ ภาษาภาพพจน์ที่กล่าวเกินจริงอาจมากหรือน้อยเกินจริงก็ได้ เรียมร่ำน้ำเนตรถ้วม ถึงพรหม พาเทพเจ้าตกจม จ่อมม้วย พระสุเมรุเปื่อยเป็นตม ทบท่าว ลงนา หากอักนิฏฐ์พรหมฉ้วย พี่ไว้จึงคง (โคลงเบ็ดเตล็ด: ศรีปราชญ์) ตราบขุนคิริขัน ขาดสลาย ลงแม่ รักบ่หายตราบหาย หกฟ้า สุริยจันทรขจาย จากโลก ไปฤา ไฟแล่นล้างสี่หล้า ห่อนล้างอาลั ย (นิราศนรินทร์: นรินทรธิเบศร์) เวหาผผ่าวเพี้ยง พันแสง ส่องเอย เรียมรัญจวนใจจอม จิ่มหล้า อาดูรคระแลงแสดง แสนโศก แสนสุเมรุไหม้ฟ้า ไป่ปาน (ทวาทศมาสโคลงดั้น) ๓. ๕ บุคลาธิษฐาน (Personification) คือ การที่กล่าวถึงสิ่งไม่มีชีวิต ไม่มีวิญญาณ ไม่มีความคิด ให้เป็นเสมือนมีชีวิต มีจิตวิญาณ มีความคิด มีความรู้สึกต่างๆ แล้วสื่อความรู้สึกออกมาให้ผู้รับสารได้รู้ ทั้งคลื่นซ้ำน้ำซัดให้ปัดปั่น โอ้แต่ชั้นคลื่นลมยังข่มเหง น่าอายเพื่อนเหมือนคำเขาทำเพลง มาเท้งเต้งเรือลอยน่าน้อยใจ (นิราศเมืองเพชร: สุนทรภู่) ลำดวนจะด่วนไปก่อนแล้ว ทั้งเกดแก้วพิกุลยี่สุ่นสี จะโรยร้างห่างสิ้นกลิ่นมาลี จำปีเอ๋ยกี่ปีจะมาพบ ที่มีกลิ่นก็จะคลายหายหอม จะพลอยตอมเหือดสิ้นกลิ่นตลบ ที่มีดอกก็จะวายระคายครบ จะเหี่ยวแห้งเซาซบสลบไป (ขุนช้างขุนแผน) ๓.